แม่สื่อในอดีตสมัยก่อนคนเราเมื่อฟ้าลิขิตพระพรหมบันดาลชักพาให้มาประสบพบตากันเข้าจนเกิดอาการปิ๊งรักขึ้นทันใดจึงต้องตามหาหัวใจกันตามประสาหนุ่มสาวผู้ถูกมนต์รักสะกดเข้าอย่างจังแต่เมื่อถึงบทจะต้องจีบกันแล้วเนี่ยเจ้าตัวจะเดินเข้าไปหาเลยแบบที่เด็กสยามสแควร์สมัยนี้ที่เดินเข้าไปประชิดขอเบอร์กันโต้งๆไม่ได้นะคะมันต้อง“จีบ”อย่างมีศิลปะมีชั้นมีเชิงเช่นผู้ชายถ้าเกิดหลงรักชอบพอสาวคนใดเข้าให้แล้วสมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์ให้เซย์ฮัลโหลหรือโทรกูดไนท์กันก่อนนอนนะคะอีกอย่างผู้ใหญ่ก็ห้ามชายหญิงนัดพบกันสองต่อสองด้วยเขาจะจีบกันเขาจึงใช้วิธีแต่งเพลงยาวที่มีเนื้อหาพรรณนาเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาที่มีต่อหญิงสาวแล้วฝากบุคคลที่ตนไว้ใจได้ให้นำไปส่งสาวที่ตนแอบชอบและคอยรับสารตอบกลับบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นม้าเร็วคนนั้นเรียกว่า“แม่สื่อหรือว่า พ่อสื่อ”นั่นเองค่ะก็อย่างที่ดิฉันบอกไปแล้วนั่นแหละค่ะว่าโอกาสจะได้พบเจอกันแล้วมานั่งพิงกันสองต่อสองอย่างสมัยนี้ยากมากกกกหรือเรียกได้ว่าน้อยมากเลยจะมีก็แบบแอบปีนหน้าต่างที่ขุนศึกปีนหน้าต่างแม่หญิงเรไรนั่นแหละค่ะเสี่ยงคุกตะรางค่ะโอกาสส่วนใหญ่จะเป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เสียมากกว่าเช่นในเมืองฝรั่งเขาจะจัดงานรื่นเริงขึ้น แล้วเปิดโอกาสให้ฝ่ายชายขอเต้นรำกับฝ่ายหญิง และการเต้นรำก็ไม่ใช่แบบถึงเนื้อถึงตัวเหมือนสมัยนี้นะคะแค่เอาฝ่ามือประกบกันและตามมารยาทต้องเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆค่ะหรือของไทยจะเป็นประเพณีตามช่วงฤดูเก็บเกี่ยวตอนกลางวันเกี่ยวข้าวก็จะมีการร้องเพลงโต้ตอบจีบกันไปมาพอตกกลางคืนก็มีการชุมนุมรอบกองไฟเป็นต้นเห็นไหมคะว่าการที่หนุ่มสาวจะได้จีบกันแต่ละครั้งเนี่ยจะต้องอาศัยช่วงเวลาตามแต่วัฒนธรรมของสังคมนั้นๆค่ะเพราะสังคมไทยมีค่านิยมการรักนวลสงวนตัวฝ่ายหญิงต้องสำรวมกายวาจาไม่ยุ่งเกี่ยวชายหนุ่มจนกว่าจะแต่งงานแม่สื่อยุคใหม่แม้สมัยนี้ค่านิยมการรักนวลสงวนตัวของชายหนุ่มหญิงสาวชาวไทยจะลดความเข้มงวดลงไปด้วยการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยแต่ก็ยังคงหลงเหลือค่านิยมการดูแลตนเองให้ดีก่อนสมรสของหญิงไทยอยู่แม่สื่อพ่อสื่อก็ยังคงเป็นที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันไม่เสื่อมคลาย แต่รูปแบบและการทำหน้าที่ของพ่อสื่อแม่สื่อก็ได้เปลี่ยนไปตามกาลยุคสมัยอาจเปลี่ยนจากฝากสารเพลงยาวเป็นฝากดอกไม้แทน เป็นแนวหน้าเข้าไปขอเบอร์ให้เพื่อน หรือเข้าไปพูดคุยถามความเคลื่อนไหวหรือลองเชิงในความรู้สึกของอีกฝ่ายเป็นต้นวิธีการนี้คุณเคยใช้กันบ้างไหมเล่าคะแล้วพอมองออกไหมว่ามันเสี่ยงยังไงตาอยู่คว้าไปกิน ตาอินกะตานา…แห้ว!!!ดิฉันอยากบอกว่าการที่ฝากรักฝากความคิดถึงไปถึงอีกฝ่ายโดยฝ่ายชายก็อาจใช้เพื่อนสนิทของตนหรือฝ่ายหญิงก็วานเพื่อนที่รู้ใจของตัวเองให้เป็นผู้เดินสารแทน ไอ้วิธีการนี้คุณว่าปลอดภัยแล้วหรือคะคุณคงเคยได้ยินบ่อยนะคะว่าคนที่สมหวังกับรักบทนี้ส่วนใหญ่เป็นพ่อสื่อ,แม่สื่อเสียเองรายไหนเป็นรายนั้นค่ะก็แหมคนเราไม่ใช่อิฐไม่ใช่ปูนนะคะวันๆก็เจอแต่อีตาคนนี้เพื่อนเขาฝากบอกมาว่าคิดถึงมาพูดมาคุยเอาดอกไม้มาให้บ้างจากความใกล้ชิดสนิทสนมก็กลายเป็นความรักน่ะสิคะก็คนที่ชอบไม่ค่อยได้เจอแต่คนที่เจอมันดันพูดคุยกันไปกันมาแล้วรู้สึกดีต่อกันไปเสียนี่งานนี้ถ้าต่างฝ่ายต่างทำใจได้ก็คบกันต่อไป แต่ถ้าไม่ได้ก็เสียเพื่อนมานักต่อนักแล้วค่ะใครเป็นแม่สื่อน่ะคนนั้นเอาไปรับประทานทุกรายไปแล้วคุณจะกล้าใช้วิธีนี้อยู่อีกไหมคะสาวๆขา

แม่สื่อ,หาคู่,หาแฟนฝรั่ง,แต่งงานกับฝรั่ง